Web Blog การเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ในการฝึกทักษะเรียนรู้พื้นฐาน การจัดการความรู้ ทักษะภาษาดิจิตอล ทักษะการรู้คิดประดิษฐ์สร้าง ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารที่มีประสิทธิผล เพื่อพัฒนาไปสู่ทักษะความรู้ที่มุ่งหวังของหลักสูตร โรงเรียนมาตรฐานสากล 6 ประการ ประกอบด้วย (1) ทักษะการเรียนรู้ Learning Skills (2) ทักษะการคิด Thinking Skills (3) ทักษะการแก้ปัญหา Problerm Skills (4) ทักษะชีวิต Life Skills (5) ทักษะการใช้เทคโนโลยี Technology Skills (6) ทักษะการสื่อสาร Communication Skills โดยใช้ทฤษฎีระบบการเรียน KM (Knowlead Maneagement) ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ Gooogle App For Education Thai และวิสัยทัศน์กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด (Word Class Standard)

ภาพเคลื่อนไหว

ประวัติศาสตร์ชาติไทย

ข่าว1

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ศาสนาสมัยกรุงธนบุรี


ศาสนาสมัยกรุงธนบุรี


การฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในสมัยกรุงธนบุรีในระยะเวลา 15 ปี มีดังนี้
1. การจัดระเบียบสังฆมณฑล
2. การรวบรวมพระไตรปิฎก
3. การบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม
4. การอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานในราชอาณาจักร
        การจัดระเบียบสังฆมณฑล
หลังจากการสถาปนาราชธานีแล้ว ในปี พ.ศ. 2311ก็โปรดให้จัดระเบียบสังฆมณฑล โดยเสาะหาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ นิมนต์มาประชุมกัน ณ วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม) เพื่อเลือกตั้งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่มีพรรษาและทรงคุณธรรม แล้วแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราช ประมุขฝ่ายสงฆ์ เพื่อจัดการปกครองในสังฆมณฑลต่อไป และโปรดแต่งตั้งพระเถระใหญ่น้อยตามลำดับสมณศักดิ์ แล้วนิมนต์ไปจำพรรษาตามวัดวาอารามต่าง ๆ ในกรุงธนบุรี ทำหน้าที่บังคับบัญชาพระสงฆ์และสามเณร ในวัดฝ่ายคันถธุระและวิปัสสนาธุระ
        การรวบรวมพระไตรปิฎก
หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตกในคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อ 7 เมษายน 2310 วัดวาอารามบ้านเมืองถูกพม่าเผา พระคัมภีร์ พระไตรปิฎก และตำราต่าง ๆ ก็ถูกเผาและสูญหายเป็นอันมาก หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแล้ว ก็โปรดให้สืบเสาะแสวงหาพระไตรปิฎกตามหัวเมืองต่าง ๆ แล้วนำมาคัดลอกไว้เพื่อชำระพระไตรปิฎกต่อไป อาทิ ในครั้งเมื่อยกทัพไปปราบชุมนุมนครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ. 2312 เมื่อเสร็จศึกแล้วก็โปรดให้ยืมพระไตรปิฎกจากนครศรีธรรมราชบรรทุกลงเรือเพื่อนำมาคัดลอกเก็บไว้  ณ กรุงธนบุรี และในครั้งที่ยกทัพไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝาง ในปี พ.ศ. 2313 ก็โปรดให้นำพระไตรปิฎกจากวัดมหาธาตุ เมืองฝาง อุตรดิตถ์ เพื่อใช้ในการสอบทานกับต้นฉบับที่ได้มาจากนครศรีธรรมราช แต่การรวบรวมพระไตรปิฎกยังไม่เรียบร้อยก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน
        การบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม
โปรดให้บรรดาขุนนางทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ราษฎร ร่วมกันสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร เจดีย์ กุฏิ รวมหลายพระอาราม หมดพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมากวัดที่โปรดให้บูรณะปฏิสังขรณ์มีดังนี้
วัดบางยี่เรือใต้(วัดอินทาราม)  วัดบางหว้าใหญ่(วัดระฆังโฆสิตาราม)  วัดแจ้ง((วัดอรุณราชวราราม)  วัดบางยี่เรือเหนือ(วัดราชคฤห์)  วัดหงส์อาวาส(วัดหงส์รัตนาราม)
วัดที่สำคัญในรัชกาลนี้คือ วัดอินทาราม(วัดบางยี่เรือใต้หรือวัดบางยี่เรือใต้) สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเอาใจใส่ ทั่วพระอาราม และโปรดให้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษซึ่งเป็นวัดฝ่ายวิปัสสนาธุระ
วัดหงส์อาวาส บูรณะแล้วยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกฝ่ายการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม
วัดแจ้ง เป็นวัดในเขตพุทธาวาส เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา เมื่อครั้งเสร็จศึกเวียงจันทน์ ได้อัญเชิญ พระแก้วมรกต มาประดิษฐาน ณ วัดแจ้งแห่งนี้ วัดนี้จึงเรียกว่าวัดพระแก้วในสมัยกรุงธนบุรี
         การอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานในราชอาณาจักร
พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของไทย เดิมตามประวัติการพบครั้งแรก ณ เมืองเชียงราย ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสิน โปรดให้ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีเวียงจันทน์ ได้ชัยชนะแล้วได้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบาง มายังกรุงธนบุรี โดยประดิษฐาน ณ วัดแจ้ง โดยมีพระราชดำริจะสร้างปราสาทถวายแต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น